วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2556

ประเพณีท้องถิ่น: ประเพณีเลี้ยงเจ้าพ่อดงเย็น


ประเพณีเลี้ยงเจ้าพ่อดงเย็น

                ชุมชนในท้องที่ภูมิภาคล้านนา มีความเชื่อเรื่องผีและสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันเป็นเวลานานแล้ว และมีการสืบทอดจนกลายเป็นประเพณีและวิถีปฏิบัติอันเป็นแบบแผนที่ดีในการอยู่ร่วมกันระหว่างชุมชนกับทรัพยากรธรรมชาติ ดังจะเห็นได้ในหลายชุมชน มีการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ในเขตที่เชื่อว่ามีผีเจ้าที่สิงสถิตอยู่เพื่อปกปักรักษาชุมชนให้อยู่เย็นเป็นสุข  และในทุก ๆ ปีจะมีการทำพิธีกรรมเลี้ยงผีเจ้าที่เพื่อเป็นการสักการะ บูชาและบนบานศาลกล่าวให้มีความสุข  ในล้านนาโดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มน้ำกวงจะมีพิธีกรรมหนึ่ง ที่ชนพื้นเมืองยึดถือและปฏิบัติสืบทอดกันมาจนเป็นประเพณี  อันได้แก่  ประเพณีเลี้ยงผีเสื้อบ้าน ผีเจ้าบ้าน และผีเจ้านาย ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมนี้ขึ้นในทุก วันแรม 9 ค่ำ เดือน9 (มิถุนายน) ของทุกปี และเรื่องเล่าจากชุมชนในวารสารลุ่มน้ำกวงฉบับนี้ จะเล่าถึงประเพณีหนึ่งที่ผู้เขียนได้เข้าร่วมกิจกรรม  และรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก  ประเพณีนั้นก็คือ ประเพณีเลี้ยงเจ้าพ่อดงเย็น 







                ประเพณีเลี้ยงเจ้าพ่อดงเย็น เป็นประเพณีประจำปี ของชุมชนบ้านโป่งกุ่ม หมู่ที่ 4 ตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีการปฏิบัติสืบทอดกันมาไม่ต่ำกว่า 120 ปีมาแล้ว โดยการจัดพิธีกรรมดังกล่าวจะกระทำใน วันแรม 9 ค่ำ เดือน 9 ของทุกปี จากความเชื่อที่ว่าในพื้นที่ดงเย็นมี เจ้าพ่อเต๋จ๊ะและเจ้าแม่นางเฟย ผู้เป็นธิดา ที่ชุมชนชาวไทลื้อนับถือสิงสถิตคอยปกปักรักษาพื้นที่ดงเย็นและพื้นที่หมู่บ้านอยู่ ดังนั้นในทุกปีชาวบ้านจะจัดพิธีกรรม เลี้ยงเจ้าพ่อดงเย็น เพื่อบนบานศาลกล่าวให้เจ้าพ่อและเจ้าแม่ช่วยคุ้มครองหมู่บ้านและสัตว์เลี้ยงให้อยู่อย่างสงบสุข   ในอดีตเมื่อใกล้จะถึงประเพณีการเลี้ยงเจ้าพ่อดงเย็น  ชาวบ้านจะนำควายที่เลี้ยงมาปล่อยกินหญ้าไว้ในพื้นที่ดงเย็น โดยมีการตั้งหลักไม้เสี่ยงทายไว้บริเวณหน้า หอเจ้าพ่อ ถ้าควายตัวไหนเอาสีข้างไปสีกับหลักเสี่ยงทายหรืออยู่วนเวียนบริเวณหลักเสี่ยงทาย ก็แปลว่า เจ้าพ่อได้เลือกควายตัวดังกล่าวเป็นเครื่องเซ่นสังเวยในปีนี้  โดยชาวบ้านจะมีการรวมเงินกันซื้อควายจากเจ้าของเพื่อใช้ทำพิธีกรรม แล้วนำควายมาฆ่าบริเวณหลักหน้าศาลเจ้าพ่อก่อนที่จะนำถวายต่อไป  ประเพณีเลี้ยงเจ้าพ่อดงเย็นได้มีการใช้ควายเป็นเครื่องเซ่นสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นตามแบบแผนเดิมที่บรรพบุรุษได้สร้างไว้ให้ ต่อมาเมื่อไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา เนื่องจากในพื้นที่การใช้ควายไถนาเริ่มลดลง ชาวบ้านที่เลี้ยงควายก็น้อยลง ทำให้ควายในพื้นที่เริ่มหายากและมีราคาแพง  จึงได้เปลี่ยนมาเป็นการใช้ไก่และ หมูเป็นเครื่องเซ่นสังเวยแทนสืบจนถึงปัจจุบัน  เมื่อใกล้ถึงวันแรม 9 ค่ำ เดือน 9 ในหมู่บ้านจะมีการป่าวประกาศ หรือบอกกล่าว ให้ชาวบ้านรับทราบ เมื่อใกล้ถึงวันจัดพิธีกรรม วัน ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า วันดา ก็จะมีการเตรียมข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นใช้ในการเลี้ยงเจ้าพ่อบางส่วน ได้แก่  เครื่องประกอบขันตั้ง  เครื่องสังเวย เตรียมหมู  1 ตัว และไก่  8 ตัว ที่จะนำไปสังเวย ของหวาน ขันหมากขันพลู ผลไม้ ขันข้าวตอกดอกไม้ ให้พร้อมก่อนถึงวันงาน  
                วันแรม 9 ค่ำ เดือนเก้า ตอนเช้าตรู่  เจ้าจ้ำ หรือผู้ที่เป็นตัวแทนในการทำพิธีกรรมเลี้ยงเจ้าพ่อ ได้นำขันตั้ง  ขันหมากขันพลูและข้าวตอกดอกไม้บอกกล่าวบริเวณหอเจ้าพ่อดงเย็น ซึ่งในเวลานั้นชาวบ้านจะเริ่มทยอยกันมาสมทบในพื้นที่ เมื่อถึงเวลาประมาณ 8 โมงเช้าชาวบ้านจะช่วยกันทำความสะอาดบริเวณพื้นที่ดงเย็นให้เกิดความสะอาดตา  ผู้อาวุโสบางส่วนได้นำไก่ต้ม 8 ตัวใส่ถาดเตรียมถวาย  จัดทำขันตั้งสำหรับบนบานศาลกล่าวเจ้าพ่อ กลุ่มชายฉกรรจ์ก็ร่วมกันฆ่าหมูที่ถูกมัดกับหลักเสี่ยงทายแล้วนำไปชำแหละแต่ยังไม่แยกเครื่องใน ในบริเวณใกล้ ๆ จากนั้นเจ้าจ้ำ จุดธูปเทียนบอกกล่าวและถวายเครื่องเซ่นให้เจ้าพ่อ  แล้วนำหมูไปทำอาหารก่อนนำมาถวายอีกครั้งหนึ่ง เจ้าจ้ำ กล่าวถวายเครื่องสังเวย นำขันตั้งถวายเจ้าพ่อดงเย็นแล้วชาวบ้านร่วมกันนำอาหารที่ทำจากหมูและไก่ที่ใช้ในการสังเวยมาถวายอีกครั้งหนึ่ง แล้วนำเทียนมาจุดถวาย เพื่อเสี่ยงทาย เมื่อเทียนดับหมายถึงเจ้าพ่อทานเครื่องเซ่นอิ่มแล้ว ชาวบ้านก็จะนำเครื่องเซ่นและอาหารที่เตรียมมากินร่วมกันในงานจนถึงเที่ยง จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับบ้านตนเอง  สำหรับผู้เขียนก็อิ่มแปล้ไปตามระเบียบ  ประเพณีเลี้ยงเจ้าพ่อดงเย็นบางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ งมงาย ค่ำครึ หรือโบราณ แต่ในมุมมองของผู้เขียนแล้ว กลับเป็นกิจกรรมที่สร้างความสมัครสมานสามัคคีให้กับคนในชุมชนได้เป็นอย่างดี


ที่มา: วารสารลุ่มน้ำกวง พ.ศ.2552
สถานที่: บ้านโป่งกุ่ม หมู่ที่ 4 ตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
ภาพ: Mr.Sawing

ไม่มีความคิดเห็น: