การเลี้ยงผึ้งโก๋น(ผึ้งโพรงป่า) ตอนที่ 6
"น้ำผึ้งเดือน 5"
By Sawing Khuntasa
สวัสดีครับ ห่างหายไปหลายอาทิตย์เลยนะครับ(พอดีช่วงนี้ยุ่ง ๆ อยู่น่ะครับ) เป็นไงบ้างครับ ช่วงนี้หลาย ๆ พื้นที่คงมีฝนตกพอให้ชุ่มใจหายร้อน กันไปพอสมควรนะครับ ยังไงเดินทางก็ระวังนะครับ เพราะยังอยู่ในช่วงฤดูกาลของพายุฤดูร้อนอยู่นะครับ เห็นว่าช่วงก่อน แถวเชียงรายโดนลูกเห็บหล่นใส่ หลังคาบ้านเรือนเสียหายไปหลายหลังนะ เอ้า พอก่อนเริ่มนอกเรื่องไปใหญ่แล้ว น้อ ^_^
เป็นไงบ้างครับ บทความเกี่ยวกับการเลี้ยงผึ้งโก๋นใน 5 ตอน ที่ผ่านมา มีข้อสงสัยหรือจะติชมตามสบายนะครับ ในช่วงเดือนพฤษภาคม นี้ตามความเชื่อของชาวไทยโบราณนี่ถือว่า เป็นช่วงที่น้ำผึ้งมีสรรพคุณและคุณภาพดีที่สุด ที่เรียกกันว่า "น้ำผึ้งเดือน 5 " นั่นไงครับ ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นหละครับ ตามสติปัญญาอันน้อยนิด(ไม่อ้างอิงข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มากนะครับ) มีเหตุผลว่า น้ำผึ้งช่วงนี้เป็นสุดยอดของน้ำผึ้งอย่างไรนะครับ พอสรุปได้ดังนี้ครับ
1.เป็นช่วงที่มีความชื้นในน้ำผึ้งน้อยที่สุด เนื่องจากช่วงเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงปลายร้อน ก่อนเข้าฤดูฝน ทำให้มีลักษณะสภาพอากาศโดยรวมถือว่าอากาศยังแห้งอยู่ ทำให้น้ำผึ้งที่ผึ้งเก็บไว้ในรังมีระดับความชื้นน้อยครับ (คือมีน้ำปนอยู่ในน้ำผึ้งน้อย) ทำให้คุณสมบัติของน้ำผึ้งคงตัวได้นาน ไม่บูด ถ้าเก็บหลังจากเดือน 5 ฝนตกเยอะ น้ำผึ้งจะมีความชื้นปนอยู่เยอะ คุณภาพจะลดลง
2.เป็นช่วงที่ในรังผึ้งมีปริมาณน้ำผึ้งเยอะที่สุด ทำไมน่ะเหรอครับ เนื่องจาก ผึ้งจะเริ่มทำรังประมาณ เดือน กุมภาพันธ์ - มีนาคม ของทุกปี แล้วจะมีการเร่งขยายรังและเก็บน้ำหวานดอกไม้มาเพื่อเตรียมเลี้ยงลูกผึ้งที่อยู่ในรัง ซึ่งจะออกเป็นตัว ในช่วงประมาณ เดือน พฤษภาคม - มิถุนายน ของทุกปี(อันนี้จากการสังเกตุส่วนตัวนะ) ดังนั้นน้ำผึ้งในเดือนพฤษภาคมจะมีน้ำหวานเต็มอยู่ทุกเซลล์
3. เป็นช่วงที่มีสรรพคุณทางยาสูงที่สุด เพราะ ช่วงฤดูร้อนของไทย เป็นช่วงที่ต้นไม้ในป่าผลิดอกออกผลมากที่สุด และมีความหลากหลาย การที่ผึ้งเก็บน้ำหวานจากดอกไม้หลากหลายชนิดนี้ทำให้ผู้อาวุโสบางท่าน เรียกน้ำผึ้งว่า "น้ำแสนดอก" หรือ "ยาแสนดอก" ซึ่งมีสรรพคุณเข้ายาได้หลายขนาน กล่าวถึงสรรพคุณของน้ำผึ้ง น้ำผึ้งป่าธรรมชาติเป็นที่ยอมรับว่ามีสรรพคุณที่หลากหลายอันนี้เอาจากข้อมูล ใน วิกิพีเดีย ประเทศไทย มีรายละเอียดโดยสรุปดังนี้ครับ (ขออนุญาตอ้างอิงเน้อ ขี้เกียจพิมพ์ละ อิอิ)
(1) คุณค่าทางโภชนาการ(ที่มา: วิกิพีเดีย)
น้ำผึ้งได้ความหวานจากมอโนแซ็กคาไรด์ ฟรุกโทสและกลูโคส และมีความหวานประมาณเทียบได้กับน้ำตาลเม็ด น้ำผึ้งมีคุณสมบัติทางเคมีที่ดึงดูดในการอบ และมีรสชาติพิเศษซึ่งทำให้บางคนชอบน้ำผึ้งมากกว่าน้ำตาลและสารให้ความหวานอื่น ๆ จุลินทรีย์ส่วนมากไม่เจริญเติบโตในน้ำผึ้งเพราะมีค่าแอกติวิตีของน้ำต่ำที่ 0.6 อย่างไรก็ดี บางครั้งน้ำผึ้งก็มีเอนโดสปอร์ในระยะพักตัวของแบคทีเรีย Clostridium botulinum ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อทารก เพราะเอนโดสปอร์สามารถแปลงเป็นแบคทีเรียที่ผลิตชีวพิษในทางเดินอาหารที่ยังไม่เจริญเต็มที่ของทารก ซึ่งทำให้เกิดความเจ็บป่วยและอาจถึงแก่ชีวิต[4]
(2) ส่วนประกอบทางเคมี(ที่มา:วิกิพีเดีย)
น้ำผึ้งเป็นสารผสมของน้ำตาลกับสารประกอบอื่น น้ำผึ้งส่วนใหญ่เป็นฟรุกโทส (ราว 38.5%) และกลูโคส (ราว 31.0%) [1] ทำให้น้ำผึ้งคล้ายกับน้ำเชื่อมน้ำตาลอินเวิร์ท (inverted sugar syrup) ที่ผลิตเชิงสังเคราะห์ ซึ่งมีปริมาณฟรุกโทส 48% กลูโคส 47% และซูโครส 5% คาร์โบไฮเดรตที่เหลือในน้ำผึ้งมีมอลโทสและคาร์โบไฮเดรตซับซ้อนอื่น ๆ [1] เช่นเดียวกับสารให้ความหวานที่บำรุงสุขภาพทุกชนิด น้ำผึ้งส่วนใหญ่เป็นน้ำตาลและมีวิตามินหรือแร่ธาตุอยู่เล็กน้อย น้ำผึ้งยังมีสารประกอบหลายชนิดในปริมาณน้อยซึ่งคาดกันว่าทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงไครซิน พิโนแบค์ซิน วิตามินซี คาตาเลสและพิโนเซมบริน องค์ประกอบที่เจาะจงของน้ำผึ้งแต่ละกลุ่มนั้นขึ้นอยู่กับดอกไม้ที่ผึ้งใช้ผลิตน้ำผึ้ง
ผลการวิเคราะห์น้ำผึ้งตามแบบ มีสารดังต่อไปนี้
- ฟรุกโทส 38.2%
- กลูโคส 31.3%
- มอลโทส 7.1%
- ซูโครส 1.3%
- น้ำ 17.2%
- น้ำตาลที่สูงกว่า 1.5%
- เถ้า 0.2%
- อื่น ๆ /ไม่กำหนด 3.2%
ค่าดัชนีน้ำตาลอยู่ระหว่าง 31 ถึง 78 แล้วแต่ชนิด น้ำผึ้งมีความหนาแน่นราว 1.36 กิโลกรัมต่อลิตร (หนาแน่นกว่าน้ำ 36%)
(เดี่ยวนี้น้ำผึ้งโพรงป่าได้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนเต็มตัวแล้ว)
สำหรับน้ำผึ้งโพรงป่า(ผึ้งโก๋น) เป็นที่ยอมรับในตำหรับยาหลายขนาน เนื่องจาก น้ำผึ้งโพรงป่ามีคุณลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากน้ำผึ้งชนิดอื่น ๆ เนื่องจากมีช่วงในการเก็บสะสมเป็นเวลานาน ทำให้มีสีเข้มและรสชาติเข้มข้นกว่าน้ำผึ้งอื่น ๆ ค่อนข้างเด่นชัด ทำให้หลาย ๆ คนเที่ยวเสาะแสวงหา น้ำผึ้งคุณภาพ แท้ ถึงแม้ราคาจะแพงกว่าน้ำผึ้งที่ฟาร์มที่จำหน่ายทั่วไปก็ตาม ทั้งนี้เป็นความเชื่อที่ว่า น้ำผึ้งแท้ "เป็นยาอายุวัฒนะ" นั่นเอง ปัจจุบันน้ำผึ้งโพรงป่าแท้ สามารถหาซื้อได้ในราคาถูก ๆ ที่ ลุ่มน้ำแม่กวง จังหวัดเชียงใหม่่ ซึ่งเป็นผลจากการสนับสนุนส่งเสริมภูมิปัญญา ของ โครงการหมู่บ้านพิทักษ์ป่ารักษาสิ่งแวดล้อม จังหวัดเชียงใหม่ที่มุ่งมั่น อนุรักษ์และฟื้นฟูภูมิปัญญาดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง อยากได้น้ำผึ้งคุณภาพและเป็นของแท้ ลองไปถามซื้อดูแถว ๆ อำเภอดอยสะเก็ด - อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ดูนะครับ น้ำผึ้งโพรงป่าแท้จะมีฉลากรับรองติดอยู่ครับ
ในบทความฉบับหน้า ผมจะนำข่าวสารการพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำผึ้งธรรมชาติของชุมชนในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่กวง มาฝากท่านผู้อ่านอีกนะครับ บาย.....
ไปเยี่ยมอำเภอดอยสะเก็ด - อำเภอแม่ออน เชียงใหม่
ถ้าเห็นฉลากแบบนี้แปลว่าเป็นน้ำผึ้งโพรงป่าแท้ 100% ครับ
อย่าลืมแวะไปอุดหนุนผลิตภัณฑ์ชุมชนนะครับ ^_^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น