การศึกษาเปรียบเทียบการขยายพันธุ์ต้นลิงลาววิธีแบบธรรมชาติ
และการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
ดร.จิราภรณ์ ปาลี
มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
ตามปกติเมล็ดลิงลาวเมื่อหล่นจากต้นธรรมชาติจะใช้ระยะเวลานานมากในการงอกบางครั้งอาจจะใช้เวลาที่ตกลงพื้นดินมากกว่า
1 ปีกว่าที่จะงอกได้เนื่องจากต้องรอให้เปลือกที่ห่อเมล็ดย่อยสลายและเนื้อหุ้มเมล็ดมีความอ่อนนุ่ม
ทำให้ต้นอ่อนสามารถงอกได้ การเร่งการงอกของเมล็ดลิงลาวจึงเป็นวิธีที่ชุมชนพยายามลองผิดลองถูกและทำมาตลอด
การศึกษาการเพาะเมล็ดตามธรรมชาติ 2 วิธี คือ การเพาะเมล็ดลิงลาวด้วยวิธีดั้งเดิม
และการเพาะเมล็ดลิงลาววิธีการแช่น้ำอุ่นก่อนเพาะ
เป็นการศึกษาเปรียบเทียบและพัฒนาองค์ความรู้ร่วมกันระหว่างชุมชนและทีมวิจัยเพื่อนำไปขยายผลต่อในอนาคต
โดยมีรายละเอียดการศึกษา ดังนี้
1.การเพาะเมล็ดลิงลาวด้วยวิธีดั้งเดิม
การเพาะเมล็ดต้นลิงลาวเป็นวิธีการที่ชุมชนในพื้นที่เริ่มใช้มาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วคือประมาณ
ช่วง 5 – 10 ปี ที่ผ่านมา
มีการพบการเพาะอย่างจริงจังในปี พ.ศ.2553 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากที่ชุมชนมีความสนใจในต้นลิงลาวเพิ่มมากขึ้นหลังจากได้ร่วมศึกษาและพัฒนาความรู้ร่วมกันกับสถาบันความหลากหลายทางชีวภาพฯ
มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย โดยดำเนินกิจกรรมร่วมกันในโครงการวิจัย
“การศึกษาศักยภาพทางเศรษฐกิจของต้นลิงลาว”
ของคณะวิจัยจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย จากการทดลองนำเมล็ดต้นลิงลาวไปเพาะขยายพันธุ์ในกระบะทรายด้วยวิธีดั้งเดิมทั่วไปโดยทีมวิจัยชุมชน
พบว่า ซึ่งถ้านำเมล็ดจากผลไปเพาะจะใช้เวลาในการงอกประมาณ 5 เดือน และจากการทดลองเพาะเมล็ดจำนวน
200 เมล็ด พบอัตราการงอกสูงประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์
เมล็ดบางส่วนไม่มีการงอกหรือไม่ก็เกิดการเน่าเสียระหว่างการเพาะ โดยต้นลิงลาวที่อายุประมาณ 12 เดือนจะมีความสูงประมาณ 25.64 เซนติเมตร มีจำนวนรากต่อต้นประมาณ
6.80 ราก จำนวนใบประมาณ 3.60 ใบต่อต้น ซึ่งยังไม่เหมาะกับการเอาไปปลูกขยายพันธุ์และเมื่อเลี้ยงต่อเนื่องพบว่าต้นลิงลาวมีอัตรากาเจริญเติบโตจนสามารถนำไปปลูกขยายพันธุ์ได้ในช่วงอายุ
16 – 18 เดือน
อัตราการงอกของเมล็ดลิงลาวด้วยวิธีดั้งเดิมสามารถสรุปได้ดัง ดังข้อมูลตามตารางที่ 1 ดังนี้
ตารางที่ 1 ข้อมูลสรุปการงอกของเมล็ดต้นลิงลาวด้วยวิธีดั้งเดิมโดยเฉลี่ย
ระยะเวลา
(เดือน)
|
จำนวนราก
(รากต่อต้น)
|
ความยาวรากเฉลี่ย
(ซม.)
|
ความสูง
(ซม.)
|
จำนวนใบ
(ใบต่อต้น)
|
1
|
0.00
|
0.00
|
0.00
|
0.00
|
2
|
0.00
|
0.00
|
0.00
|
0.00
|
3
|
0.00
|
0.00
|
0.00
|
0.00
|
4
|
0.00
|
0.00
|
0.00
|
0.00
|
5
|
1.74
|
3.12
|
3.50
|
1.00
|
6
|
2.35
|
4.22
|
3.74
|
1.00
|
7
|
2.55
|
4.75
|
15.14
|
1.40
|
8
|
3.52
|
5.94
|
16.84
|
2.00
|
9
|
4.60
|
6.84
|
18.82
|
2.80
|
10
|
5.20
|
7.25
|
20.43
|
2.20
|
11
|
5.50
|
7.68
|
23.56
|
3.40
|
12
|
6.80
|
8.65
|
25.64
|
3.60
|
จะเห็นได้ว่าต้นลิงลาวจากข้อมูลดังตารางที่ 1 มีการงอกที่เร็วกว่าปล่อยให้ขยายพันธุ์ในธรรมชาติและก็ยังช้ามากหากเทียบกับการขยายพันธุ์โดยวิธีการแยกกอและแยกเหง้าซึ่งถึงแม้จะได้ปริมาณที่น้อยและมีอัตราการเจริญเติบโตที่เร็วกว่า
จากการวิเคราะห์ร่วมกันระหว่างทีมวิจัยชุมชนและทีมวิจัยเห็นว่าสาเหตุที่ทำให้เมล็ดลิงลาวมีการใช้เวลาในการงอกยาวนานนั้น
น่าจะมีสาเหตุมาจากเมล็ดลิงลาวเมื่อแก่จัดมีความแข็งค่อนข้างมากเมื่อนำไปเพาะจะใช้เวลานานพอสมควรกว่าที่น้ำจะทำให้เนื้อหุ้มเมล็ดลิงลาวเกิดการอ่อนตัวจนสามารถทำให้เกิดการงอกได้และอาจจะส่งผลให้อัตราการเจริญเติบโตของต้นกล้าใช้เวลายาวนานเพิ่มตามระยะเวลาการงอก
ดังนั้น ซึ่งการเพาะด้วยวิธีนี้
ชุมชนมักจะไม่เพาะในกระบะทรายมากนักแต่จะนำเมล็ดไปหว่านในแปลงดินในพื้นที่ทำกินหรือรอบบ้านเรือนเลยและค่อย
ๆ ปล่อยให้งอกตามธรรมชาติโดยไม่ต้องไปดูแลมาก
1.1 การเพาะเมล็ดลิงลาววิธีการแช่น้ำอุ่นก่อนเพาะ
ในการทดลองการเพาะขยายพันธุ์จากเมล็ดต้นลิงลาววิธีใหม่นี้
นายสนั่น พวงคำไหล ทีมวิจัยชุมชนบ้านปางกำแพงหิน หมู่ที่ 8 ตำบลเทพเสด็จ อำเภอดอยสะเก็ด
จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีประสบการณ์การเพาะขยายพันธุ์ต้นลิงลาวทุกวิธีมาไม่น้อยกว่า
10 ปี ได้สรุปบทเรียนจากการทดลองเพาะเมล็ดต้นลิงลาวด้วยวิธีดั้งเดิม ทำให้ได้พบว่า สาเหตุที่ต้นลิงลาวงอกจากเมล็ดช้าน่าจะเกิดจากเปลือกหุ้มที่แข็งเกินไปทำให้การงอกเป็นไปอย่างช้า
ๆ ถ้าทำให้เนื้อหุ้มเมล็ดลิงลาวเกิดการอ่อนตัวสามารถเร่งการงอกของต้นลิงลาวได้ดีกว่าวิธีการเพาะตามปกติที่มีการเพาะกันโดยทั่วไปในพื้นที่
ซึ่งการทดลองนี้ ได้ดำเนินการคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ต้นลิงลาวมาจำนวน 200 เมล็ด แล้วนำมาแช่ในน้ำอุ่นที่อุณหภูมิประมาณ 50 – 80 องศาเซลเซียส(หรือเมื่อนำมือจุ่มลงในน้ำมีความรู้สึกร้อนแต่ไม่ร้อนเกินไปจนทนไม่ได้)
เป็นระยะเวลา 1 คืน
จากนั้นก็นำเมล็ดที่ผ่านการแช่น้ำอุ่นมาเพาะด้วยวิธีการปกติ
โดยเพาะใส่กระถางกระถางละ 20 เมล็ด จำนวน 10 กระถาง พบว่าเมล็ดลิงลาวสามารถงอกขึ้นภายในเดือนที่ 2 โดยมีการงอกทั้งหมดจำนวน 168 เมล็ด หรือ 84 เปอร์เช็นต์ของเมล็ดพันธุ์ทั้งหมดซึ่งถือว่าเป็นอัตราการงอกที่สูงกว่าวิธีเดิมและงอกเร็วกว่าวิธีเดิมถึง
3 เดือน และเมื่อเลี้ยงต่อเนื่องยังพบว่าต้นลิงลาวมีอัตราการเจริญเติบโตที่รวดเร็วและสมบูรณ์สามารถนำไปปลูกขยายพันธุ์ได้ในช่วงอายุ
8 – 12 เดือน โดยมีความสูงเฉลี่ยอยู่ในช่วง 32.6 – 61.6 ซม. จำนวนใบประมาณ 4 – 8 ใบต่อต้น และจำนวนรากประมาณ 6 – 14 รากต่อต้น
ตารางที่ 2 ข้อมูลสรุปการงอกของเมล็ดต้นลิงลาววิธีการแช่น้ำอุ่นก่อนเพาะ
ระยะเวลา
(เดือน)
|
จำนวนราก
(รากต่อต้น)
|
ความยาวรากเฉลี่ย
(ซม.)
|
ความสูง
(ซม.)
|
จำนวนใบ
(ใบต่อต้น)
|
1
|
0.00
|
0.00
|
0.00
|
0.00
|
2
|
2.40
|
4.31
|
3.14
|
1.00
|
3
|
2.80
|
6.06
|
6.38
|
1.00
|
4
|
3.20
|
4.99
|
21.14
|
1.40
|
5
|
4.40
|
5.94
|
17.84
|
2.00
|
6
|
5.60
|
8.64
|
31.30
|
3.80
|
7
|
5.20
|
10.10
|
21.76
|
3.20
|
8
|
8.20
|
9.68
|
33.70
|
4.40
|
9
|
6.80
|
8.73
|
32.60
|
4.60
|
10
|
8.40
|
8.04
|
33.80
|
4.40
|
11
|
10.20
|
10.25
|
61.60
|
8.60
|
12
|
14.40
|
12.08
|
55.72
|
6.40
|
2.การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
2.1 การทดลองการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อโดยใช้เมล็ดแก่
จากการทดลองหาวิธีการฟอกฆ่าเชื้อเมล็ดลิงลาวที่เหมาะสม
พบว่า เปอร์เซ็นต์การปนเปื้อนจะสูงสุด 70% เมื่อทำการฟอกฆ่าเชื้อเมล็ดลิงลาวด้วยวิธีที่ 1 คือ
การฟอกด้วยสารละลายไฮเตอร์ ความเข้มข้น 20% เขย่านาน 20 นาที โดยจะพบการปนเปื้อนทั้งจากเชื้อราและแบคทีเรีย
ขณะที่การฟอกฆ่าเชื้อด้วยวิธีที่ 5 (การฟอกด้วยสารละลายไฮเตอร์
ความเข้มข้น 20% นาน 20 นาที
ล้างด้วยน้ำกลั่นที่ผ่านการนึ่งฆ่าเชื้อแล้ว 3 ครั้ง
จากนั้นแช่ใน 95% แอลกอฮอล์ นาน 20 นาที)
จะพบเปอร์เซ็นต์การปนเปื้อนจากเชื้อราและแบคทีเรียเพียง 10% เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม
วิธีการฟอกฆ่าเชื้อที่เหมาะสมนั้นนอกจากจะพิจารณาจากเปอร์เซ็นต์การปนเปื้อนแล้ว
ยังต้องเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับอัตราการงอกของเมล็ดด้วย โดยจากการทดลองพบว่า
อัตราการงอกของเมล็ดลิงลาวจะสูงสุดในชุดการทดลองที่ฟอกฆ่าเชื้อด้วยวิธีที่ 2
(การฟอกด้วยสารละลายไฮเตอร์ ความเข้มข้น 20%
นาน 20 นาที ล้างด้วยน้ำกลั่นที่ผ่านการนึ่งฆ่าเชื้อแล้ว 3
ครั้ง จากนั้นแช่ใน 95% แอลกอฮอล์ นาน 5
นาที) รองลงมาคือ
การฟอกฆ่าเชื้อเมล็ดด้วยวิธีที่ 3 (การฟอกด้วยสารละลายไฮเตอร์
ความเข้มข้น 20% นาน 20 นาที
ล้างด้วยน้ำกลั่นที่ผ่านการนึ่งฆ่าเชื้อแล้ว 3 ครั้ง
จากนั้นแช่ใน 95% แอลกอฮอล์ นาน 10 นาที)
โดยมีอัตราการงอกสูงถึง 66.67% และ 50.00%
ตามลำดับ ขณะที่การฟอกฆ่าเชื้อเมล็ดด้วยวิธีที่ 5 ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์การปนเปื้อนต่ำสุดนั้นกลับไม่พบการงอกของเมล็ดลิงลาวเลย ทั้งนี้อาจมีสาเหตุมาจากเนื้อเยื่อของเอ็มบริโอที่อยู่ภายในเมล็ดถูกทำลายอันเนื่องมาจากการแช่เมล็ดใน
95% แอลกอฮอล์ นานเกินไป (25 นาที)
ตารางที่ 17 เปอร์เซ็นต์การปนเปื้อนและอัตราการงอกของเมล็ดลิงลาวเมื่อฟอกฆ่าเชื้อ
5 วิธี
วิธีการฟอกฆ่าเชื้อ
|
การปนเปื้อน (%)
|
อัตราการงอก
|
วิธีที่ 1
|
70%
|
33.33%
|
วิธีที่ 2
|
40%
|
66.67%
|
วิธีที่ 3
|
40%
|
50.00%
|
วิธีที่ 4
|
30%
|
28.57%
|
วิธีที่ 5
|
10%
|
0.00%
|
2.2
การทดลองการเพาะเลี้ยงเอ็มบริโอ
จากการเพาะเลี้ยงเอ็มบริโอที่ได้จากผลอ่อนลิงลาวในอาหารวุ้นสูตร
MS เป็นเวลา 2 สัปดาห์ พบว่าเอ็มบริโอที่เพาะเลี้ยงไว้เริ่มมีการพัฒนา หรือมีอัตราการงอก
100% โดยสามารถดูได้จากขนาดที่ใหญ่ขึ้น และความยาวเพิ่มขึ้น
(ดังรูป) และเมื่อเลี้ยงเอ็มบริโอต่อเนื่องนาน 2 เดือน
พบว่าเอ็มบริโอที่เพาะเลี้ยงสามารถพัฒนาเป็นต้นที่สมบูรณ์ที่มีทั้งยอดและรากได้
จากการเพาะเลี้ยงเอ็มบริโอลิงลาวบนอาหารวุ้นสูตร
MS ที่ไม่เติม และเติม BA
ที่ความเข้มข้น 0.5, 1.0, 2.0, 3.0 และ 4.0
มก/ล เป็นเวลา 8 สัปดาห์
พบว่าเอ็มบริโอที่เพาะเลี้ยงในอาหารทุกๆ สูตร สามารถเจริญและพัฒนาเกิดเป็นยอดได้ 100%
โดยอาหารวุ้น MS ที่เติม BA 0.5 มก/ล จะมีจำนวนยอดเฉลี่ยสูงสุด 4.0 ยอดต่อชิ้นเนื้อเยื่อ
(ตารางที่ 6) รองลงมาคือ อาหารวุ้นสูตร MS ที่ไม่เติม BA โดยให้จำนวนยอดเฉลี่ย 1.5 ยอดต่อชิ้นเนื้อเยื่อ ขณะที่อาหาร MS ที่เติม BA
ที่ความเข้มข้น 1.0 – 4.0 มก/ล
จะให้จำนวนยอดเฉลี่ยเพียง 1.0 ยอดต่อชิ้นเนื้อเยื่อเท่านั้น
นอกจากนี้ยังพบว่าในอาหารทุกๆ สูตร ทั้งที่เติมและไม่เติม BA สามารถชักนำให้เอ็มบริโอเกิดรากได้ 100% อีกด้วย
โดยอาหารวุ้น MS ที่ไม่เติม BA จะให้จำนวนรากเฉลี่ยต่อชิ้นเนื้อเยื่อสูงสุด
2.5 ราก รองลงมาคือ อาหารวุ้น MS ที่เติม
BA 0.5 มก/ล โดยให้จำนวนรากเฉลี่ย 2.0 รากต่อชิ้นเนื้อเยื่อ
ขณะที่อาหารที่เติม BA ที่ความเข้มข้น 1.0 – 4.0 มก/ล พบเพียง 1.0 รากต่อชิ้นเนื้อเยื่อเท่านั้น
ตารางที่ 3 เปอร์เซ็นต์การเกิดยอดและราก
จำนวนยอดและรากเฉลี่ยต่อชิ้นเนื้อเยื่อ เมื่อเพาะเลี้ยงเอ็มบริโอบนอาหารสูตร MS
ที่เติม BA ที่ความเข้มข้นต่างๆ เป็นเวลา 8
สัปดาห์
ความเข้มข้นของ BA (มก/ล)
|
เปอร์เซ็นต์การเกิดยอด
|
จำนวนยอดเฉลี่ยต่อชิ้นเนื้อเยื่อ
|
เปอร์เซ็นต์การเกิดราก
|
จำนวนรากเฉลี่ยต่อชิ้นเนื้อเยื่อ
|
0
|
100%
|
1.5
|
100%
|
2.5
|
0.5
|
100%
|
4.0
|
100%
|
2.0
|
1
|
100%
|
1.0
|
100%
|
1.0
|
2
|
100%
|
1.0
|
100%
|
1.0
|
3
|
100%
|
1.0
|
100%
|
1.0
|
4
|
100%
|
1.0
|
100%
|
1.0
|
ที่มา:โครงการศึกษาศักยภาพต้นลิงลาวในการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศคุณค่าทางโภชนาการ สำหรับประยุกต์ใช้ในการพัฒนาชุมชน(สวิง ขันทะสา,วัฒนา ปัญญามณีศร,ดร.จิราภรณ์ ปาลี,ดร.ณัฐติยา ชัยชนะ, สถาบันความหลากหลายฯ และคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย)
โครงการวิจัยนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณการวิจัยจาก: โครงการส่งเสริมการวิจัยในอุดมศึกษาและพัฒนามหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ ภายใต้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาโครงการส่งเสริมการวิจัยในอุดมศึกษาและพัฒนามหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ ภายใต้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น